ความพินาศของเกาะ ปาล์มที่ดูไบ เขาใช้เงินเกินตัวอย่างไร
พอดีไปอ่านเจอบทความเกี่ยวกับวิกฤตดูไบ อ่านเข้าใจง่ายดี เลยเอามาให้อ่านกัน แหล่งที่มา http://www.oknation.net/blog/sigree/2009/11/30/entry-1 ตอนผมอยู่ที่ดูไบนั้น เกาะปาล์มถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยากไปเยือนที่สุด จะว่าไปผมทำงานใกล้เกาะ 2 ใน 3 เกาะ แต่กว่าจะได้ไปเยือนจริงๆก็ตอนใกล้จะกลับ ไทย และผมได้ไปเยือนเกาะปาล์มเพียงแห่งเดียวคือ ปาล์ม จูไมร่า และถือเป็นปาล์มต้นเดียวที่เสร็จสมบูรณ์จริงๆ จะว่าไปผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก มีเพียงอ่างเลี้ยงปลาวาฬเท่านั้นที่ทำผมตะลึง ที่เหลือมันไม่ประทับใจเท่าไหร่เลย จะว่าไปบ้านบนนั้นมันเรียงจนเหมือนบ้านจัดสรรราคาถูกทั้งๆที่เป็นร้อยล้าน ดูสิครับ ในขณะที่ปาล์มต้นที่ 2 เจเบอาลี เคยเห็นแต่ไม่เคยเข้าไปเพราะยังไม่สมบูรณืครับ และปาล์มต้นนี้คือ จุดเริ่มความพินาศ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม เกาะแห่งนี้คือจุดเริ่มของความพินาศ ต้องย้อนกลับไปต้นแรกก่อนครับ ปาล์ม จูไมร่า นั้นขายหมดในเวลาไม่นานนัก หากจำไม่ผิดจะขายหมดใน 1หรือ 2 วันนี้แหละครับ ทำให้เจ้าผู้ครองนครดูไบตัดสินใจสร้างปาล์มต้นที่ 2 คือเจเบลอาลีแห่งนี้ แต่……..เจเบลอาลีเป็นเกาะที่ต่างจาก จูไมร่า เกาะแรกอย่างสิ้นเชิง จูไมร่า นั้นตั้งบนหาดทรายสีขาว จูไมร่าบีซที่มีซื่อไปทั่วโลก น้ำทะเลที่ใสราวกระจกเพราะเป็นเขตที่มีหอยมุก(อันดามันเราก็มีหอยมุกและน้้ำใส) นอกจากนี้บริเวญโดยรอบ ยังเป็นที่พักอาศัยและสำนักงานชั้นดี เมืองมหาวิทยาลัย หากจำไม่ผิด เอมิเรต ฮิล ที่ตั้งบ้านทักษิณก็อยู่ใกล้ๆเกาะนี้ แต่ เจเบลอาลีไม่ความหยิ่งผยองในโครงการแรกทำให้ เจเบลอาลีใหญ่กว่าเกาะแรก ทำให้หรูกว่า แพงกว่าแต่ที่ตั้งงี้เง่าที่สุดเท่าที่จะนึกถึง เจเบลอาลีอยู่ในเขตอุตสาหกรรมและท่าเรือ มีทั้งไอพิษ น้ำเน่าปนเปื้อนเคมี คราบน้ำมันและอิ่นๆโครงการนี้จึงล้มไม่เป็นท่า แต่ แทนที่เชคแกจะยอมรับ แกมองไปว่าต้องสร้างความน่าดึงดูดใจกว่านี้คนถึงเข้ามา แกจึงสร้างเกาะรุปเสี้ยวจันทร์ล้มไปให้ใหญ่ขึ้นเห็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เป็นรูปตัว U [...]